The Zulu Princess: A Journey Through Time and Forbidden Love!

 The Zulu Princess: A Journey Through Time and Forbidden Love!

ในปี ค.ศ. 1913 ซึ่งเป็นยุคทองของภาพยนตร์เงียบ ยุโรปและอเมริกาต่างพากันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกมากมาย แต่มีหนึ่งเรื่องที่โดดเด่นด้วยความลึกลับและแปลกประหลาด นั่นก็คือ “The Zulu Princess”

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการผจญภัยของหญิงสาวผิวดำผู้สูงศักดิ์ ชื่อ Nala ซึ่งถูกบังคับให้แต่งงานกับหัวหน้าเผ่าที่โหดร้าย ในขณะที่เธอ secretly รอคอยความรักจากชายหนุ่มชาวอังกฤษ ชื่อ Thomas

“The Zulu Princess” ถ่ายทำในยุโรปโดยผู้กำกับและนักเขียนบทชาวอเมริกันชื่อ Eugene Augustus Westermann Jr. ผู้ซึ่งได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์เงียบมากมายในช่วงต้นศตวรรษที่ 20

เรื่องราวของความรักข้ามเผ่าพันธุ์:

เนื้อหาของ “The Zulu Princess” โฟกัสไปที่ความรักระหว่าง Nala หญิงสาวเชื้อสาย Zulu และ Thomas ชายหนุ่มชาวอังกฤษ ซึ่งพบกันในดินแดนแอฟริกาใต้ Nala เป็นเจ้าหญิงแห่งเผ่า Zulu ผู้มีใบหน้าตรึงตาและจิตใจเปี่ยมเมตตา

ส่วน Thomas เป็นนักสำรวจผู้มาเยือนแอฟริกาเพื่อค้นหาสมบัติโบราณ

ความรักของทั้งสองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกขัดขวางด้วยอุปสรรคมากมาย

  • ข้อห้ามทางสังคม:

ในยุคนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงผิวต่างสีถือเป็นเรื่องผิดปกติและถูกห้ามปราม

  • ความแตกต่างทางวัฒนธรรม: Nala และ Thomas มาจากสองโลกที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านภาษา อุปนิสัย และค่านิยม

  • การต่อต้านจากหัวหน้าเผ่า Zulu:

หัวหน้าเผ่า Zulu ซึ่งต้องการ Nala เป็นมเหสีของตนเอง ไม่ยอมรับความรักระหว่าง Nala กับ Thomas

การแสดงที่น่าจดจำ:

นักแสดงใน “The Zulu Princess” ล้วนแต่เป็นมืออาชีพที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น

  • Gertrude McCoy แสดงเป็น Nala เจ้าหญิงแห่งเผ่า Zulu ด้วยสีหน้า expressive และท่าทางสง่างาม
  • William V. Mong รับบท Thomas นักสำรวจชาวอังกฤษ ซึ่งแสดงถึงความรักและความกล้าหาญอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบอีกหลายคน

เทคนิคการถ่ายทำที่ทันสมัย:

“The Zulu Princess” ถือเป็นภาพยนตร์ที่มีเทคนิคการถ่ายทำที่ทันสมัยสำหรับยุคนั้น

  • การใช้แสงและเงา:

ผู้กำกับ Westermann Jr. ใช้แสงและเงาอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับภาพยนตร์

  • การเคลื่อนกล้อง: กล้องถูกใช้ในลักษณะที่ไม่ธรรมดา เพื่อสร้างความรู้สึก गति และความตื่นเต้น

  • ฉากแอ็คชั่น:

“The Zulu Princess” มีฉากแอ็คชั่นและการไล่ล่าที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ฉากการต่อสู้ระหว่าง Thomas กับผู้คนของหัวหน้าเผ่า Zulu ฉากเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการกำกับและฝีมือของทีมงาน

“The Zulu Princess” เป็นภาพยนตร์เงียบที่น่าจดจำ และเป็นตัวอย่างของผลงานศิลปะในยุคทองของภาพยนตร์

ข้อดี: ข้อเสีย:
เรื่องราวความรักข้ามเผ่าพันธุ์ที่น่าสนใจ ภาพยนตร์เงียบอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกคน
การแสดงที่น่าจดจำของนักแสดงนำ คุณภาพภาพและเสียงอาจสู้ภาพยนตร์สมัยใหม่ไม่ได้
เทคนิคการถ่ายทำที่ทันสมัยสำหรับยุคนั้น

“The Zulu Princess” เป็นผลงานชิ้นเอกของ Eugene Augustus Westermann Jr. ซึ่งควรค่าแก่การชม แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์เงียบ แต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้ด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจ การแสดงที่ยอดเยี่ยม และเทคนิคการถ่ายทำที่ทันสมัย

“The Zulu Princess” เป็นภาพยนตร์เงียบที่ล้ำค่าซึ่งยังคงให้ความบันเทิงแก่ผู้ชมในทุกยุคสมัย